ข้าวซอยไก่ อาหารยอดนิยมของคนเมืองเหนือ

ข้าวซอยไก่ อาหารยอดนิยมของคนเมืองเหนือ

เมนูอาหาร “ข้าวซอยไก่” สูตรเด็ดยอดนิยมของคนเมืองเหนือ

อีกเมนูอาหารเมืองเหนือที่นำมาฝากกันในวันนี้ หากใครไปแอ่วเมืองเหนือ หรือเมืองเชียงใหม่แล้ว ไม่ได้รับประทาน “ข้าวซอย” ถือว่ามาไม่ถึงเมืองเหนือครับ เพราะข้าวซอยเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวเหนือที่โด่งดัง เป็นอีกเมนูอาหารที่มีชื่อเสียง มีทั้งข้าวซอยไก่ และข้าวซอยเนื้อ เลือกรับประทาน ได้ตามใจชอบ มีวิธีทำดังนี้ครับ
เมนูอาหาร “ข้าวซอยไก่” สูตรเด็ดยอดนิยมของคนเมืองเหนือ
ส่วนผสมสำหรับทำเมนูอาหาร “ข้าวซอยไก่” ดังนี้

- เนื้อไก่สับเป็นชิ้นๆ 1 กิโลกรัม
- เส้นข้าวซอย หรือเส้นบะหมี่เหลืองเส้นใหญ่ 12 ก้อน
- น้ำกะทิสำเร็จรูป 2 กล่อง
- ซีอิ้วขาว 1 ขวด
- หอมแดงปอกผ่าครึ่ง 20 หัว
- พริกป่น 1-2 ช้อนชา
- มะนาวผ่าเป็นชิ้นๆ 10 ผล
- ผักกาดดองเปรี้ยวหั่นชิ้นเล็กๆ 1 จาน
- เส้นบะหมี่ทอดกรอบ 1 ชาม

ส่วนผสมสำหรับทำ “น้ำพริกข้าวซอย” มีดังนี้

- พริกแห้งเม็ดใหญ่คั่ว 5 เม็ด
- พริกขี้หนูแห้งคั่ว 10 เม็ด
- ลูกกระวาน (เอาเปลือกออก) คั่ว 5 ลูก
- ขมิ้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- ลูกผักชีคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงปอกเปลือกหั่นบางๆ คั่ว 15 หัว
- ก่อนอื่นให้นำส่วนผสมสำหรับทำ “น้ำพริกข้าวซอย” ทั้งหมดใส่ครก โขลกรวมกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้ก่อน

วิธีปรุงเมนูอาหาร “ข้าวซอยไก่” สูตรเด็ดเมืองเหนือ ดังนี้

1. ตั้งหม้อด้วยไฟกลางๆ ใส่น้ำพอท่วม ต้มไก่ที่สับเอาไว้ แต่พอน้ำเดือดสักพัก ให้ลดไฟลง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนไก่เปื่อย เคี่ยวไปเรื่อยๆ
2. เอากระทะขึ้นตั้งไฟอีกเตา ผัดเครื่องแกงกับหัวกะทิในกล่องที่เป็นครีมขาว เหนียวข้น ผัดให้หอมและให้กะทิแตกมัน จากนั้นก็ตักเอาน้ำพริกแกงที่ผัดนี้ ใส่ลงในหม้อที่ต้มไก่ทันที แล้วใส่กะทิที่เป็นหางกะทิลงไปทั้งหมด เคี่ยวต่อไปอีก ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ลองชิมดูให้มีรสชาติเค็มอ่อนๆ แต่หากไม่เค็มให้เติมซีอิ้วขาวลงไปอีกได้
3. ลวกเส้นข้าวซอย หรือเส้นบะหมี่ใหญ่ ใส่ชามเตรียมไว้

4. เอาน้ำแกงและเนื้อไก่ราดลงบนเส้น “ข้าวซอย” โรยด้วยเส้นข้าวซอยกรอบ ที่ทอดเอาไว้ก่อนแล้วเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย รับประทานได้ทันทีครับ

น้ำพริกหนุ่ม สูตรเมืองเหนือ

น้ำพริกหนุ่ม สูตรเมืองเหนือ

เมนูอาหาร “น้ำพริกหนุ่ม” สูตรต้นฉบับชาวเหนือ

หากมีโอกาสได้ชิมน้ำพริกหนุ่มแถวเชียงใหม่ คุณจะรู้ว่า มีรสชาติอร่อยสุดๆครับ ยิ่งเมื่อนำมารับประทานกับแคบหมู ที่ผ่านการปรุง การทอดสดๆ ร้อนๆ จะทำให้คุณลืมเมนูอาหารอย่างอื่นโดยสิ้นเชิง แล้วที่ว่าอร่อยแบบเมืองเหนือ เขาทำกันอย่างไร..? มาดูกันครับ

เมนูอาหาร “น้ำพริกหนุ่ม” สูตรต้นฉบับชาวเหนือ
เตรียมส่วนผสมสำหรับเมนูอาหร “น้ำพริกหนุ่ม” สูตรต้นฉบับชาวเหนือ ดังนี้

-พริกหนุ่มสด (เม็ดสีแดงอ่อน) 1 กิโลกรัม
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-เกลือป่น 1 ช้อนชา
-ผงชูรส

วิธีปรุงสำหรับเมนูอาหาร “น้ำพริกหนุ่ม” สูตรต้นฉบับชาวเหนือ มีดังนี้

1. ให้เอาพริกหนุ่มที่เตรียมไว้ เด็ดขั้วออก เอาใส่รังนึ่งให้สุก จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นก็ยกลง น้ำมาฉีกเป็นเส้นยาวๆ เอาเม็ดและใส้ออก (ไม่ใช้)
2. เอาเนื้อพริกหนุ่มที่ได้ใส่ครก โขลกเบาๆ พอช้ำ ไม่ต้องให้ละเอียด เสร็จแล้วเอาออกจากครก โรยเกลือป่นลงไป ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตามด้วยผงชูรสเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากันดี เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ


- ส่วนรสชาติของน้ำพริกหนุ่มที่ปรุงเสร็จแล้ว หากทำตามสูตร จะออกเค็มนิดๆ เกือบจะไม่รู้สึกเค็ม แต่จะว่าหวาน..ก็ไม่รู้สึกหวาน แต่จะได้รสชาติของเนื้อพริกอย่างแท้จริง และนี่แหละที่เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ “น้ำพริกหนุ่ม” สูตรต้นฉบับเมืองเหนือ..สวัสดีครับ

“น้ำพริกอ่อง” น้ำพริกผัดที่มีเนื้อหมูสับ

น้ำพริกอ่อง

เมนูอาหาร “น้ำพริกอ่อง” น้ำพริกผัดที่มีเนื้อหมูสับ

สำหรับเมนูอาหารที่นำมาฝากกันในบทความนี้ ยอมรับว่าอร่อยมากๆ ครับ เพราะเป็นน้ำพริกผัดที่มีเนื้อหมูสับรวมอยู่ด้วย แถมเครื่องปรุงและส่วนผสมต่างๆ ก็มีมากมายหลายหลาก ยิ่งหากนำมารับประทานกับแคบหมู ความอร่อยก็จะบังเกิดขึ้นมาทันทีทันใดนั่นเอง ถือว่าเป็นอาหารรสชาติดี ของคนเมืองเหนืออีกชนิดหนึ่ง “น้ำพริกอ่อง” มีส่วนผสมอะไรบ้าง..? มีวิธีการปรุงอย่างไร..? มาดูกันครับ

เมนูอาหาร “น้ำพริกอ่อง” น้ำพริกผัดที่มีเนื้อหมูสับ
ส่วนผสมสำหรัเมนูอาหารเด็ด “น้ำพริกอ่อง” สูตรเมืองเหนือ มีดังนี้

- เนื้อหมูบด หรือสับละเอียด 1 ถ้วยตวง
- มะเขือเทศสุกแดงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  1 ถ้วยตวง
- กระเทียมแกะกลีบ ปอกเปลือกออก 2 หัว
- หอมแดงปอกเปลือก 10 หัว
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
- พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
- กะปิดี (ห่อใบตองเผาไฟ) 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาดี 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ผงชูรส

วิธีปรุงสำหรับเมนูอาหาร “น้ำพริกอ่อง” สูตรเมืองเหนือ ดังนี้

1.นำพริกแห้งเม็ดใหญ่ พริกขี้หนูแห้ง หอม กระเทียม กะปิดี โขลกรวมกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
ก่อน
2.ตั้งกระทะด้วยไฟกลางๆ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอกระทะเริ่มร้อน เอาเครื่องแกงที่โขลกไว้ลงผัดให้หอมเสียก่อน จากนั้นก็เอาเนื้อหมูลงผัด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่มะเขือเทศสุกที่หั่นเตรียมไว้ลงผัดให้เข้ากันอีกครั้ง

3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี้บ น้ำมะนาว ผงชูรส ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงแต่งรสชาติตามถนัด ตักใส่ถ้วย รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ แกล้มด้วยผักสด และแคบหมู..อร่อย..แต้..แต้..นะเจ้า เรียกได้ว่าอร่อยแบบเมืองเหนือจริงๆครับ 

เนื้อน้ำตก รสแซ่บอีสาน

เนื้อน้ำตก รสแซ่บอีสาน

เมนูอาหาร “น้ำตกเนื้อหรือเนื้อน้ำตก” รสแซ่บอีสาน

สำหรับเมนูนี้ เป็นอีกเมนูเด็ดประจำภาคอีสานก็ว่าได้ แต่อันที่จริงแล้วไม่ว่าจะไปภาคไหนหากเอ่ยถึง “เนื้อน้ำตก” คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก หรืออาจจะเป็นเพราะว่า คนภาคอีสานไปกระจายอยู่เกือบทั่วทุกภาคแล้วก็อาจเป็นได้ ส่วนรสชาติจะแซ่บ หรืออร่อยเพียงใด อย่าเพิ่งเชื่อครับ เชิญไปพิสูจน์พร้อมๆกันดีกว่า
เมนูอาหาร “น้ำตกเนื้อหรือเนื้อน้ำตก” รสแซ่บอีสาน
เริ่มจากเตรียมส่วนผสมสำหรับทำเมนูอาหาร “เนื้อน้ำตก” รสแซ่บอีสาน ดังนี้

- เนื้อวัวติดมัน 200 กรัม (2 ขีด)
- หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- สะระแหน่เด็ดเป็นใบ ½ ถ้วย
- พริกป่น ½ ช้อนชา
- ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนชา
- ซีอิ้วขาว ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงชูรส (นิดหน่อย)

วิธีทำ สำหรับเมนูอาหาร “เนื้อน้ำตก” รสแซ่บอีสาน มีขั้นตอนดังนี้

1. ล้างเนื้อวัวให้สะอาด แล่ให้หนาประมาณ 1 ซม. เคล้ากับซีอิ้วขาว หมักไว้ประมาณ 30 นาที

2. ย่างเนื้อด้วยเตาถ่าน หมั่นพลิกกลับไปมาทั้งสองด้าน ไม่ให้เนื้อไหม้ เอาแค่พอเกรียมเหลือง เนื้อจะสุกจากด้านนอกเข้าไปด้านในนิดหน่อย พอน้ำตกเริ่มส่งกลิ่นหอมยกลง หั่นเฉียงพอคำ นำใส่หม้อใบเล็กสำหรับผสม จากนั้นก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมมะนาว พริกป่น ข้าวคั่วป่น หอมแดงซอย เหยาะด้วยผงชูรสนิดหน่อย คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ปรุงรสให้ออกเปรี้ยวนิดๆ ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ กินกับผักสดเช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาวสด หรือใบโหระพา รับรองแซ่บ..หลายๆ..เด้อ

ไข่ลูกเขย

ไข่ลูกเขย

เมนูอาหาร “ไข่ลูกเขย” รสเด็ด

สำหรับสูตรเด็ดในการทำไข่ลูกเขย มีเสียงกระซิบจากเชฟมือโปร..แผ่วๆ..บอกเอาไว้ว่า “เคล็ดลับเด็ดอยู่ที่หอมแดงเจียว โดยการซอยหอมแดงบางเท่าๆกัน ใส่ลงกระทะเจียวพร้อมกับน้ำมันที่ยังไม่ร้อนด้วยไฟอ่อนๆ ไม่ต้องคน เพียงแค่กดจุ่มลงน้ำมันเบาๆก็พอ คือให้เจียวจนหอมแดงมีสีเหลืองอ่อน แล้วรีบตักขึ้นทันที”  แต่จะเด็ดแค่ไหน..ไปพิสูจน์พร้อมๆ กันเลยดีกว่าครับ
เมนูอาหาร “ไข่ลูกเขย” รสเด็ด
เริ่มจากเตรียมวัตถุดิบสำหรับเมนูอาหาร “ไข่ลูกเขย” รสเด็ด ดังนี้

- ไข่เป็ดต้มสุกแบบยางมะตูม 10 ฟอง
- หอมแดงซอย ½ ถ้วย
- พริกขี้หนูแห้ง 7-8 เม็ด
- น้ำมันพืช 2 ถ้วย
- น้ำตาลปี้บ ½ ถ้วย
- น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก ½ ถ้วย

วิธีทำสำหรับเมนูอาหาร “ไข่ลูกเขย” รสเด็ด มีขั้นตอนดังนี้

1. ตั้งกระทะน้ำมันดัวยไฟกลางๆ ใส่ไข่ต้มลงทอดให้เหลืองทั่ว ตักขึ้นใส่จานไว้ จากนั้นใส่หอมแดงลงเจียวต่อจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นให้ทอดพริกขี้หนูแห้งต่อพอพองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ก่อน
2. ตักน้ำมันในกระทะออกให้เหลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำตาล น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก เคี่ยวให้ข้นเหนียว ชิมรสให้ออกเปรี้ยว หวาน เค็ม ผ่าไข่ทอดออกเป็นสองซีก ใสลงผัดพอทั่ว เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ

3. ขั้นตอนสุดท้าย ตักใส่จานหรือชาม ตักน้ำที่เคี่ยวราดให้ทั่ว โรยด้วยหอมเจียว พริกขี้หนูแห้งทอด ตกแต่งด้วยใบผักชี เตรียมเสิร์ฟได้เลยครับ

กุ้งผัดขี้เมา

กุ้งผัดขี้เมา

เมนูอาหาร “กุ้งผัดขี้เมา” รสเด็ด

หากฟังดูแบบผิวเผิน เหมือนกับว่าเมนูอาหารนี้ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีรับประทาน..? แต่ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพราะเมนูอาหารเด็ด “กุ้งผัดขี้เมา” ที่ว่านี้ จัดว่าเป็นเมนูอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านอาหารหลายๆแห่ง ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กๆ หรือร้านใหญ่ระดับห้าดาว ต่างก็มีเมนูกุ้งผัดขี้เมาที่ว่านี้ ติดไว้ในสคริปเมนูอาหารทั้งนั้น ส่วนรสชาติจะเป็นอย่างไร ไปลองชิมพร้อมๆกันเลยครับ

เมนูอาหาร “กุ้งผัดขี้เมา” รสเด็ด
เริ่มจากเตรียมส่วนผสมสำหรับเมนูอาหาร “กุ้งผัดขี้เมา” ดังนี้

- กุ้งกุลาดำ หรือกุ้งแช่บ๊วย (ตัวละ 25 กรัม)  20 ตัว
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนชา
- กะเพราะเด็ดใบ 1 ถ้วย

เตรียมเครื่องสำหรับผัดขี้เมา

- พริกชี้ฟ้าสีเหลือง 6 เม็ด
- ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทย 10 กลีบ
- หอมแดงซอย ½ ถ้วย
- กะปิ ½ ช้อนชา   

วิธีทำเมนูอาหาร “กุ้งผัดขี้เมา” รสเด็ด มีขั้นตอนดังนี้

1. ก่อนอื่นเตรียมเครื่องสำหรับผัดขี้เมา โดยโขลกพริกชี้ฟ้าให้ละเอียด ใส่ตะไคร้ กระเทียม และหอมแดง โขลกรวมกันให้ละเอียด จึงใส่กะปิ โขลกต่อให้ละเอียดเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย พักไว้ก่อน
2. ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือกออกเด็ดหัว (เอาเฉพาะส่วนหาง) ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ใส่จานพักไว้ก่อน

3. ตั้งกระทะน้ำมันใช้ไฟกลางๆ ใส่เครื่องผัดขี้เมาที่เตรียมไว้ลงผัดให้หอม ใส่กุ้ง ผัดพอสุกทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมดู จากนั้นใส่ใบกระเพาลงไปท้ายสุด ผัดให้เข้ากัน ปิดไฟ เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ

แกงเลียงผักรวมกุ้งสด

แกงเลียงผักรวมกุ้งสด

เมนูอาหาร “แกงเลียงผักรวมกุ้งสด” สูตรเครื่องแกงเข้มข้น

อีกหนึ่งเมนูอาหารที่อยากจะแนะนำในวันนี้ จัดเป็นเมนูประจำท้องถิ่นของพี่น้องชาวใต้ของเรานี่เองครับ นั่นก็คือ “แกงเลียงผักรวมกุ้งสด” จะมีหน้าตา และขั้นตอนการทำอย่างไร ไปชิมพร้อมๆกันเลยครับ
เมนูอาหาร “แกงเลียงผักรวมกุ้งสด” สูตรเครื่องแกงเข้มข้น
เริ่มจากเตรียมวัตถุดิบสำหรับเมนูอาหาร “แกงเลียงผักรวมกุ้งสด” ดังนี้

- กุ้งแช่บ๊วย 10 ตัว
- น้ำสต็อกไก่ 3 ถ้วย
- ฟักทองหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ¼ ถ้วย
- ข้าวโพดอ่อนหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 5 ฝัก
- บวบเหลี่ยม (ฝานเหลี่ยมออก) หั่นเฉียงบาง ½ ถ้วย
- เห็ดฟางผ่าครึ่ง 5 ดอก
- เนื้อหมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ยอดและใบตำลึงเด็ดเป็นท่อน ½ ถ้วย
- ใบแมงลัก ¼ ถ้วย

เตรียมเครื่องสำหรับทำแกงเลียง

- กุ้งสดลวกแกะเปลือกออก 3 ตัว
- พริกไทยเม็ด 10 เม็ด
- หอมแดงหั่น ¼ ถ้วย
- รากผักชีหั่น ½ ช้อนชา
- กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเมนูอาหาร “แกงเลียงผักรวมกุ้งสด” มีขั้นตอนดังนี้

1. เริ่มจากเตรียมเครื่องแกงเลียง โดยโขลกพริกไทยให้ละเอียด ใส่หอมแดง รากผักชี และกะปิ โขลกต่อให้ละเอียด จากนั้นก็ใส่กุ้งลวก โขลกต่ออีกครั้งให้ละเอียดเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย พักไว้ก่อน
2. นำสต็อกไก่ใส่ในหม้อ ต้มด้วยไฟกลางๆ พอเดือดใส่เครื่องแกงเลียงที่เตรียมไว้ก่อนหน้า คนให้ทั่ว จากนั้นก็ใส่ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน พอเริ่มสุกให้ใส่บวบ เห็ดฟาง ตามด้วยหมูสับ รอให้เดือดสักพัก ปรุงรสด้วยน้ำปลา จากนั้นก็ใส่กุ้งที่เตรียมไว้ ตามด้วยใบตำลึงและใบแมงลัก รอจนสุกปิดไฟ เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ


คำเตือนที่ดี : แนะนำให้รับประทานขณะร้อนๆ ด้วยน้ำแกงที่เผ็ดร้อน เข้มข้น รสชาติหอมอร่อย ออกแนวปักษ์ใต้ รับรองว่า ณ เวลานี้ ไม่มีเมนูอื่นในใจอีกแล้วครับ

แกงเหลืองปลากะพง

แกงเหลืองปลากะพง

เมนูอาหาร “แกงเหลืองปลากะพง” สูตรเสริมระบบย่อยอาหาร

สำหรับเมนูอาหารที่นำมาฝากกันในบทความนี้ จัดเป็นเมนูสมุนไพรก็ว่าได้ครับ เพราะว่าเมนูนี้มีส่วนผสมของขมิ้น ซึ่งในตัวขมิ้นเองจะมีน้ำมันหอมระเหย มีสารเหลือง ที่ชื่อเคอร์คูมิน ที่มีฤทธิ์ช่วยฆ่าแบคทีเรียและเชื้อรา มีส่วนช่วยในการขับลม และทำให้ระบบการย่อยอาหารของร่างกายทำงานเป็นปกติดีอีกด้วย มาดูวิธีทำกันเลยครับ
เมนูอาหาร “แกงเหลืองปลากะพง” สูตรเสริมระบบย่อยอาหาร
วัตถุดิบสำหรับทำเมนูอาหาร “แกงเหลืองปลากะพง” ที่ต้องเตรียม มีดังนี้

- ปลากะพงขาวตัวละประมาณ 4 ขีด 1 ตัว
- มะละกอดิบ (เอาเปลือกออก) เฉือนเป็นชิ้นบาง ½ กิโลกรัม
- น้ำเปล่า 3 ½ ถ้วย
- น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี้บ 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- น้ำมะนาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก ½ ถ้วย

เตรียมเครื่องแกงสำหรับทำ “แกงเหลืองปลากะพง”  ดังนี้

- พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
- พริกขี้หนูสีแดง 10 เม็ด
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- ขมิ้นหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทย 20 กลีบ
- หอมแดงซอย 3 หัว
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำเมนูอาหาร “แกงเหลืองปลากะพง” มีขั้นตอนดังนี้

1. เริ่มจากเตรียมพริกแกง โดยโขลกพริกขี้หนูแห้งกับเกลือเข้ากันให้ละเอียด จากนั้นใส่พริกขี้หนู ขมิ้น กระเทียม โขลกรวมกันจนละเอียด จึงค่อยใส่หอมแดงและกะปิลงไป โขลกต่อให้ละเอียดและเข้ากัน ตักใส่ถ้วย พักไว้ก่อน
2. ขูดเกล็ดปลากะพง ควักเหงือกและใส้ออก ล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นแว่นขนาด 1 นิ้ว ใส่จานพักไว้ก่อน

3. เตรียมหม้อใส่น้ำตั้งไฟกลางๆ ใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ คนให้ทั่ว จากนั้นใส่มะละกอที่เตรียมไว้ ต้มสักครู่จนเกือบสุก ใส่ปลากะพงลงในหม้อแล้วปิดฝา พอปลาเริ่มสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก เหยาะเกลือเล็กน้อย คนให้ทั่ว จากนั้นใส่น้ำมะนาวเป็นอันดับสุดท้าย ชิมรส ปิดฝาไว้ก่อน พอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ก็ปิดไฟ เสิร์ฟขณะแกงร้อนๆ กินกับข้าวสวยที่ฟูนุ่ม อุ่นนิดๆ อร่อยมากเลยครับ

แกงส้มแป๊ะซะผักกะเฉด

แกงส้มแป๊ะซะผักกะเฉด

เมนูอาหาร “แกงส้มแป๊ะซะผักกะเฉด” รสเด็ดถึงใจ

สำหรับเมนูอาหารที่จะมาแนะนำในบทความนี้ น่าจะถูกปากหลายๆคนอยู่นะครับ เพราะเมนูอาหารที่ว่านี้ หากคุณเดินเข้าร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นร้านข้างถนน จนถึงระดับโรงแรมหรูห้าดาว หากเอ่ยชื่อแล้ว รับรองว่าไม่มีร้านไหนที่ไม่รู้จักสำหรับ “แกงส้มแป๊ะซะผักกะเฉด” แต่เคล็ดลับจะอยู่ที่ปลาช่อนที่นำมาทำ ส่วนใหญ่แล้วเชฟมือวางอันดับต้นๆ มักจะนิยมนำปลาช่อนนามาทำ แป๊ะซะ เนื่องจากปลาช่อนนาเป็นปลาที่มีเนื้อหวาน ไม่มีกลิ่นคาว แต่เวลาทำต้องเคล้าด้วยเกลือเล็กน้อย แล้วล้างออกด้วยน้ำที่แกว่งสารส้ม เมือกก็จะหมดไป..คุณแม่บ้าน..พ่อบ้าน..พร้อมหรือยังล่ะ..ไม่อยากพรรณามาก เริ่มทำกันเลยครับ
เมนูอาหาร “แกงส้มแป๊ะซะผักกะเฉด” รสเด็ดถึงใจ
วัตถุดิบสำหรับเมนูอาหาร “แกงส้มแป๊ะซะผักกะเฉด” ที่ต้องเตรียม มีดังนี้

-  ปลาช่อนนา ตัวละประมาณ 3 ขีด 1 ตัว
-  ผักกะเฉดเด็ดยาว 2 นิ้ว ประมาณ 2 ขีด
-  น้ำเปล่า 4 ถ้วย
-  น้ำมันพืช 4 ถ้วย
-  น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
-  น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
-  น้ำตาลปี้บ ½ ช้อนโต๊ะ
-  น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

เตรียมเครื่องแกงสำหรับเมนูอาหาร “แกงส้มแป๊ะซะผักกะเฉดก” ดังนี้

-  พริกแห้งเม็ดใหญ่ (แกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม) 10 เม็ด
-  เนื้อปลาช่อนที่ต้มสุกแล้ว ½ ถ้วย
-  ข่าหั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
-  ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
-  เกลือป่น 1 ช้อนชา
-  หอมแดงหั่น 5 หัว
-  กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงส้มแป๊ะซะผักกะเฉด มีขั้นตอนดังนี้

1. อันดับแรกให้เราเตรียมเครื่องแกงก่อน โดยโขลกพริกแห้งกับเกลือเข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ โขลกรวมกันจนละเอียด จากนั้นก็ใส่หอมแดงและกะปิ โขลกรวมกันต่อให้เข้ากันดี เสร็จแล้วใส่เนื้อปลาช่อนต้มสุกที่เตรียมไว้ โขลกรวมกันอีกรอบ ตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อน
2. ล้างปลาช่อน ขูดเกล็ดออก ผ่าท้องควักเอาดีออก จากนั้นเคล้าด้วยเกลือป่นเล็กน้อยเพื่อเอาเมือกออก ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง บั้งตัวปลาทั้งสองด้าน ใส่ปลาช่อนลงทอดในกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางๆ พอสุกจนเหลืองกรอบ ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน พักไว้ก่อน
3. ตั้งหม้อต้มน้ำด้วยไฟกลางๆ พอเริ่มเดือดใส่น้ำพริกแกงส้มที่โขลกเตรียมไว้ก่อนหน้า คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาล และน้ำมะนาว คนให้ทั่ว ลดไฟลงอ่อนๆ

4. ขั้นตอนสุดท้ายเตรียมเสิร์ฟ นำปลาช่อนที่ทอดไว้ก่อนหน้าใส่ภาชนะ วางผักกะเฉดข้างตัวปลาให้ดูสวยงาม เวลาจะรับประทานให้ตักน้ำแกงที่เดือดจัดราดบนตัวปลาและผักกะเฉด เสิร์ฟร้อนๆ อร่อยมากเลยครับ

ฉู่ฉี่ปลาหมอ

ฉู่ฉี่ปลาหมอ

เมนูอาหาร “ฉู่ฉี่ปลาหมอ” สูตรต้นตำหรับ

ฉู่ฉี่ปลาช่อน หรือฉู่ฉี่ปลาหมอ เป็นที่รู้จักกันดีในวงการนักชิมทั้งหลาย เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของไทยเรามานาน แต่มีวิธีการปรุงที่เก่าแก่ ที่เชฟรุ่นพี่ทั้งหลายได้บอกเอาไว้ว่า ถ้าจะทำให้เนื้อปลาที่ใช้ทำมีรสชาติหวานมันนั้น ต้องย่างปลาหมอก่อน แล้วค่อยนำไปทำฉู่ฉี่ตามปกติ พูดง่ายๆก็คือ อันดับแรกเลยให้เราเอาปลาหมอหรือปลาช่อน ไปย่างทั้งเกล็ดด้วยไฟจากถ่านอ่อนๆ หากนำไปทำฉู่ฉี่จะได้ปลาที่กินได้ทั้งเนื้อและเกล็ด มีเนื้อที่หวาน หอม อร่อย แต่สูตรเด็ดที่ผมนำมาฝากกันวันนี้ ก็ถือว่าไม่แพ้เชฟรุ่นพี่เหมือนกันครับ
เมนูอาหาร “ฉู่ฉี่ปลาหมอ” สูตรต้นตำหรับ
เมนูอาหารเด็ด “ฉู่ฉี่ปลาหมอ” มีวัตถุดับที่ต้องเตรียม ดังนี้

-ปลาหมอไทย (ตัวละ 1 ขีด) จำนวน 4 ตัว
-พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นฝอย 2 เม็ด
-น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมันพืช 2 ถ้วย
-หัวกะทิ 1 ½ ถ้วย
-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลปี้บ 1 ช้อนโต๊ะ
-ใบมะกรูดซอย 2 ใบ

วิธีทำเมนูอาหารเด็ด “ฉู่ฉี่ปลาหมอ” มีขั้นตอนดังนี้

1.ก่อนอื่นให้ขอดเกล็ดปลาหมอ ผ่าท้องควักใส้ออก ล้างน้ำให้สะอาด กรีดข้างตัวปลาทั้งสองด้าน พักไว้บนกระชอนให้สะเด็ดน้ำรอก่อน
2.ตั้งกะทะน้ำมันใช้ไฟกลางๆ พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่ปลาหมอลงทอดให้สุกเหลืองทั่ว (แต่เนื้อในยังนุ่มอยู่) ตักวางบนตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำมัน

3.เคี่ยวหัวกะทิ 1 ถ้วย ด้วยไฟกลางๆจนแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ด ผัดให้หอมและแตกมันสีแดงลอยหน้า แล้วค่อยใส่หัวกะทิที่เหลือ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ปรุงรสให้พอดี จากนั้นค่อยใส่ปลาหมอทอด ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันดี เป็นอันเรียบ แต่หากอยากเพิ่มสีสันให้น่ากินยิ่งขึ้น พอตักใส่จานแล้ว โรยใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเฉียง ประดับด้วยยอดโหระพาสด รับรองอร่อยเด็ดสมชื่อจริงๆครับ

แกงไตปลา สูตรเด็ดเมืองสตอไม่ใส่กะทิ

แกงไตปลา สูตรเด็ดเมืองสตอไม่ใส่กะทิ

เมนูอาหารแนะนำ “แกงไตปลา” สูตรบำรุงกำลัง

สำหรับเมนูอาหารสูตรบำรุงกำลัง ที่จะมาแนะนำในบทความนี้ เป็นอีกเมนูเด็ดของชาวปักษ์ใต้ครับ แต่ก็เป็นอาหารอันเป็นที่ชื่นชอบของแทบทุกภาคเลยก็ว่าได้ เนื่องจากใช้วัตถุดิบหรือเครื่องผสม ที่เป็นที่ยอมรับในทางการแพทย์ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย คือมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบต่างของร่างกายให้เป็นปกติ และสามารถป้องกันโรคต่างๆ ได้อีกด้วย เพราะสิ่งต่างๆที่กล่าวมานี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ครับ มาดูวิธีทำกันเลย
แกงไตปลา สูตรเด็ดเมืองสตอไม่ใส่กะทิ
สำหรับเมนูอาหาร “แกงไตปลา” มีส่วนผสมดังนี้

- เนื้อหมูหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม (1 ขีด)
- ไตปลาดิบ 300 กรัม (3 ขีด)
- เนื้อกุ้งชีแฮ้แกะเปลือกออก 100 กรัม
- พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบ 100 กรัม
- ปลาโอย่างแกะเอาแต่เนื้อ 1 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 10 ใบ

เครื่องแกงสำหรับทำ แกงไตปลา มีดังนี้

- พริกขี้หนูแห้ง 40-50 เม็ด
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ขาหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทย 15 กลีบ
- หอมแดงหั่น ¼ ถ้วย
- ขมิ้นหั่น 1 ช้อนโต๊ะ

เมนูอาหาร “แกงไตปลา” มีวิธีทำ ดังนี้

1.เริ่มจากทำน้ำพริกแกง โดยโขลกพริกขี้หนูแห้งกับเกลือเข้าด้วยกัน โขลกให้ละเอียด ใส่พริกไทย ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด โขลกรวมกันให้ละเอียด แล้วค่อยใส่กระเทียม ขมิ้น และหอมแดง โขลกต่ออีกครั้งรวมกันจนละเอียดเข้ากันดี ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้ก่อน
2.สับหรือบดเนื้อหมูกับกุ้งเข้าด้วยกันให้ละเอียด ขณะสับหรือบดให้ใส่พริกไทยป่น แล้วตักใส่ชามผสม นวดต่อจนเหนียว

3.ตั้งหม้อใช้ไฟกลางๆ ต้มไตปลาจนน้ำเดือด กรองเอากากออก ต้มต่อจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงที่โขลก เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 10 นาที ขณะเคี่ยวให้ใส่น้ำตาลลงไป ปรุงแต่งรสให้พอดี จากนั้นก็ใส่เม็ดมะม่วงหิมะพานต์ แล้วปั้นเนื้อหมูและเนื้อกุ้งที่บดเอาไว้ก่อนแล้ว ให้เป็นก้อนกลมแบนใส่ลงในหม้อ ตามด้วยปลาย่าง ใบมะกรูด พอน้ำเดือดอีกครั้งและเครื่องสุกดีแล้วค่อยปิดไฟ ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเฉียงและใบมะกรูด เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟได้เลยครับ..รับรองอร่อย..จัง..ฮู้